1. ผนังและหน้าบานตู้

ไม่ว่าจะเป็นผนังปูนทาสี ปูกระเบื้อง หรือหน้าต่างตู้ที่ทำสีหรือปิดผิวด้วยเมลามีน ขอให้เป็นส่วนที่อยู่ห่างจากเตาไฟทำอาหาร ก็ไม่น่าเป็นห่วง แต่ถ้าผนังที่อยู่ใกล้เตาไฟซึ่งเต็มไปด้วยไอน้ำมัน กลิ่น ความชื้น และอีกสารพัดที่จะทำร้ายผนังของคุณได้
ในส่วนควรเลือกใช้น้ำยาขจัดคราบไขมันที่เพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดในครัวได้ดีกว่าน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป และถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนวัสดุผนังก็ขอให้เลือกใช้วัสดุที่ทำความสะอาดง่าย เช่น สเตนเลส หรือกระเบื้องเซรามิกจะดีกว่า

 2. พื้น

เป็นส่วนที่ใช้งานแทบทุกวัน ถ้าเป็นครัวไทยหรือครัวปูนที่ใช้งานหนัก พื้นอาจจะเป็นกระเบื้องที่ทนทานก็จริง แต่ควรหมั่นตรวจ ขจัดคราบฝุ่นฝังแน่นหรือที่ขจัดออกยาก คราบฝุ่น น้ำมันจากพืช,สัตว์ สำหรับการทำความสะอาดพื้น ประจำวัน ร่องยาแนวถ้าหลุดล่อนไปบ้างก็ให้ขูดออกแล้วยาแนวซ้ำลงไปอีกที ถ้าครัวฝรั่ง ครัวโชว์หรือแพนทรี พื้นที่เป็นไม้ ก็ควรหมั่นทำความสะอาดและลงน้ำยารักษาเนื้อไม้ปีละครั้งเพื่อป้องกันไม้บวมเนื่องจากการใช้งานนั่นเอง

3. ท็อป

แม้ว่าจะผลิตมาให้มีความแข็งแรง แต่ถ้าใช้งานหนักทุกวัน ท็อปที่ว่าแข็งแรงก็ย่อยมีริ้วรอยเป็นธรรมดา ถ้าครัวของคุณใช้ท็อปหินแกรนิตหรือหินธรรมชาติ ห้ามใช้น้ำยาที่มีฤทธิ์เป็นกรดโดยเด็ดขาด จากนั้นลงแวกซ์และเพื่อป้องกันคราบสกปรกมาลงอีกรอบก็จะช่วยลดคราบไขมันและสิ่งสกปรกไม่ให้กลับมาอีกครั้ง แต่ถ้าใครใช้หินสังเคราะห์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับครัวที่ใช้งานหนักและดูแลรักษาง่ายก็ไม่ผิดแต่อย่างใด

4. อุปกรณ์ระบายอากาศ

ซึ่งเกิดเกิดจากการใช้งานต่อเนื่อง และไม่ได้ทำควมสะอาดอย่างพอเพียง เช่น บริเวณพัดลมระบายอากาศที่มักมีคราบสกปรก ต่าง ๆ ตามซอกมุม ความถอดหน้ากากและใบพัดออกมาทำความสะอาดด้วยน้ำยาขจัดคราบไขมัน หากใครที่มีเครื่องดูดควัน ก็ควรนำแผ่นกรองออกมาทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. ท่อน้ำทิ้งจากอ่างล้างจาน

คราบไขมันและเศษอาหารที่เกิดจากการชำระล้างในครัวเป็นตัวกลางส่งกลิ่นเหม็นในครัวและทำให้ท่อตัน นอกจากแยกเศษ อาหารก่อนที่จะล้างจานแล้ว ควรติดที่ดักอาหาร และถ้ามีการอุดตันให้หาลวดยาว ๆ มาแยงเข้าไปหรือใช้น้ำยาย่อยสลาย สารอินทรีย์ที่มีขายทั่วไป เทลงไปก็จะช่วยให้ท่อกลับมาสะอาดดังเดิม